< !-- Start Title -->

ระบบ AI ช่วยจัดการเอกสาร

scann

AI ช่วยการจัดการเอกสารได้อย่างไร ?

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกด้านของธุรกิจ การจัดการเอกสารด้วย AI (Artificial Intelligence) กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและประโยชน์ของ AI ช่วยการจัดการเอกสาร ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการด้วยมนุษย์ ประหยัดเวลาให้กับองค์กรทุกขนาด จากการสแกนเอกสารอัตโนมัติไปจนถึงการจัดเก็บ พร้อมสำรวจว่าเทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรอย่างไรในอนาคต

ประโยชน์ของ AI ช่วยการจัดการเอกสาร

เราเชี่ยวชาญด้าน บริการสแกนเอกสาร และการจัดการเอกสารครบวงจรตั้งแต่การเตรียมเอกสาร การสแกนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การสร้างดัชนีเพื่อการค้นหาที่รวดเร็วและแม่นยำ ไปจนถึงการประมวลผลด้วยระบบ OCR (Optical Character Recognition) ที่ช่วยเปลี่ยนข้อมูลเป็นรูปแบบดิจิทัล

การแปลงเอกสารแบบดั้งเดิมให้เป็นดิจิทัล

ด้วยเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) AI สามารถแปลงเอกสารกระดาษ เช่น สัญญา ใบแจ้งหนี้ และรายงาน เป็นไฟล์ดิจิทัลที่สามารถค้นหาและแก้ไขได้ง่าย

การจัดเก็บและจัดระเบียบข้อมูลอัตโนมัติ

AI ช่วยการจัดการเอกสาร ข้อมูลให้เป็นระบบระเบียบ โดยการจัดหมวดหมู่และจัดลำดับเอกสารตามประเภท ช่วยให้ค้นหาเอกสารได้อย่างรวดเร็ว

การตรวจสอบความถูกต้องและการลดข้อผิดพลาด

ด้วยการเรียนรู้จาก Machine Learning, AI ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ เช่น การกรอกข้อมูลผิดพลาดหรือเอกสารที่ขาดหาย

OCR (Optical Character Recognition)

OCR คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการแปลงข้อมูลจากเอกสารในรูปแบบกระดาษหรือไฟล์ภาพ เช่น ไฟล์ PDF หรือ JPG ให้กลายเป็นข้อมูลดิจิทัลที่สามารถค้นหาและแก้ไขได้ เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยการ "อ่าน" ตัวอักษรจากภาพและแปลงเป็นข้อความที่สามารถจัดการได้

  • การดึงข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง (Data Extraction): AI ช่วยดึงข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ จากเอกสารได้อย่างแม่นยำ
  • การแยกประเภทเอกสารอัตโนมัติ (Document Classification): AI สามารถจัดหมวดหมู่เอกสาร เช่น ใบแจ้งหนี้, ใบเสนอราคา หรือสัญญา โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์
  • การตรวจจับข้อผิดพลาด: ด้วย AI OCR สามารถเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ และแจ้งเตือนหากพบความผิดปกติ
  • การแปลเอกสารทันที: OCR และ AI สามารถทำงานร่วมกันเพื่อแปลเนื้อหาเอกสารจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งได้
รายละเอียดเพิ่มเติม
OCR

CALL CENTER : 02-551-2097 ext. 463

วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์
เวลาทำการ : 09.00 น. - 18.00 น.

ติดต่อเรา

ระบบ EDMS (Enterprise Document Management System)

ระบบ EDMS เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาผสมผสานกับระบบ EDMS เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเอกสารขององค์กร โดยการใช้ AI ช่วยอัตโนมัติในหลายขั้นตอน

  • สามารถช่วยในการจัดหมวดหมู่เอกสารโดยอัตโนมัติ เช่น การแยกประเภทเอกสาร (ใบเสร็จ, สัญญา, ใบแจ้งหนี้)
  • OCR (Optical Character Recognition), สามารถสกัดข้อความจากเอกสารภาพ (เช่น PDF หรือสแกนเอกสาร)
  • Natural Language Processing (NLP) เพื่อช่วยในการค้นหาข้อมูลในเอกสาร โดยสามารถเข้าใจและประมวลผลคำค้นหาที่มีความหมาย ไม่ใช่แค่การค้นหาคำที่ตรงตัว ช่วยให้การค้นหาข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและเร็วขึ้น
  • สามารถตรวจจับและแจ้งเตือนหากมีเอกสารที่ขาดหายไปหรือเอกสารที่ไม่เป็นระเบียบ เช่น การตรวจสอบการเซ็นชื่อในสัญญา หรือการตรวจจับข้อผิดพลาดในเอกสารที่สำคัญ

ประโยชน์ของการรวม AI กับ EDMS

EDMS ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการเอกสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อนในการทำงาน เพิ่มความเร็วในการค้นหาและการจัดการเอกสาร และปรับปรุงความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานด้วยมือและลดต้นทุนในการจัดการเอกสารด้วย

  • การแยกประเภทเอกสารอัตโนมัติ ใช้ AI ช่วยการจัดการเอกสาร ในการแยกประเภทเอกสาร เช่น สัญญา, ใบเสร็จ, หรือเอกสารทางการเงิน
  • การสกัดข้อมูลจากเอกสารสแกน ใช้ AI ช่วยการจัดการเอกสาร ช่วยแปลงเอกสารที่เป็นภาพหรือ PDF ให้กลายเป็นข้อความที่สามารถค้นหาหรือจัดเก็บในระบบ EDMS ได้
  • การค้นหาเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบค้นหาที่ใช้ AI ช่วยการจัดการเอกสาร สามารถประมวลผลคำค้นหาที่ซับซ้อนและให้ผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุด

เทคโนโลยี AI ที่ใช้ในระบบค้นหา

AI ในการช่วยค้นหา

AI ช่วยในการค้นหา (AI-Powered Search) คือเทคโนโลยีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในการปรับปรุงกระบวนการค้นหาข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ รวดเร็ว และตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน โดย AI สามารถเข้าใจบริบท วิเคราะห์พฤติกรรม และเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของระบบค้นหา

Natural Language Processing (NLP)

ใช้ในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจคำค้น ตัวอย่างเครื่องมือ: Google BERT, OpenAI GPT

Machine Learning (ML)

เรียนรู้และปรับปรุงผลลัพธ์การค้นหาโดยการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน ตัวอย่างเครื่องมือ: TensorFlow, Scikit-learn

Computer Vision

ใช้ในการค้นหาภาพ เช่น การจดจำวัตถุหรือสถานที่ในรูปภาพ ตัวอย่างเครื่องมือ: Google Vision AI, OpenCV

Recommendation Systems

ช่วยในการแนะนำผลลัพธ์หรือคำค้นที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่าง: Amazon Personalize, Netflix

ข้อดีและข้อจำกัด AI ในการช่วยค้นหา

AI ช่วยค้นหาไม่เพียงเปลี่ยนแปลงวิธีการเข้าถึงข้อมูล หากคุณกำลังพัฒนาระบบค้นหา AI สำหรับธุรกิจ สามารถเริ่มต้นได้จากการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมและปรับแต่งตามเป้าหมายของคุณ

ข้อดี : เพิ่มความเร็วและความแม่นยำ

รองรับการค้นหาที่ซับซ้อน

ปรับผลลัพธ์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้

ข้อจำกัด : ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อการเรียนรู้

มีความซับซ้อนในการพัฒนาและบำรุงรักษา

ประโยชน์ของ AI ในการช่วยค้นหา

AI ช่วยค้นหาไม่เพียงเปลี่ยนแปลงวิธีการเข้าถึงข้อมูล หากคุณกำลังพัฒนาระบบค้นหา AI สำหรับธุรกิจ สามารถเริ่มต้นได้จากการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมและปรับแต่งตามเป้าหมายของคุณ

  • การค้นหาที่แม่นยำขึ้น
  • การค้นหาเชิงบริบท (Contextual Search)
  • การแนะนำผลลัพธ์ (Recommendation)
  • การค้นหาด้วยรูปภาพหรือเสียง (Visual/Voice Search)
  • การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience)

AI แยกประเภทข้อมูลเอกสาร

การแยกประเภทข้อมูลในเอกสารด้วย AI เป็นกระบวนการที่ช่วยจำแนกและจัดการข้อมูลในเอกสารประเภทต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถแบ่งประเภทข้อมูลได้หลากหลายตามลักษณะการใช้งาน

เอกสารทางการเงิน

ใบแจ้งหนี้ (Invoice), ใบเสร็จรับเงิน (Receipt), รายงานบัญชี (Financial Statements)

เอกสารทางกฎหมาย

สัญญา (Contracts), หนังสือรับรอง (Certificates), ใบอนุญาต (Licenses)

เอกสารธุรกิจ

รายงานประชุม (Meeting Minutes), ข้อเสนอทางธุรกิจ (Proposals), แผนกลยุทธ์ (Business Plans)

เอกสารส่วนบุคคล

บัตรประชาชน (ID Cards), ประวัติส่วนตัว (Resumes), ใบแสดงผลการเรียน (Transcripts)

Generative AI

การประยุกต์ใช้งาน Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้หลากหลายเทคนิคของ AI เพื่อทำให้ AI มีความสามารถในการเรียนรู้รูปแบบ (Patterns) จากข้อมูลจำนวนมาก และนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างเนื้อหาใหม่ ทำให้สามารถช่วยลดเวลาและทรัพยากรในการสร้างเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดี : ประหยัดเวลาและต้นทุนลดเวลาที่ใช้ในการสร้างเนื้อหาหรือข้อมูลใหม่ๆ

ความยืดหยุ่นสูงสามารถใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและประยุกต์ใช้กับธุรกิจทุกขนาด

สร้างสรรค์และไม่ซ้ำซ้อนช่วยเพิ่มความครีเอทีฟในงานออกแบบหรือการสร้างเนื้อหา

ข้อเสีย : ความเสี่ยงใช้งานผิดวิธีการใช้ AI การสร้างข้อมูลที่ผิดกฎหมาย

ขาดความเข้าใจในบริบท: Generative AI อาจไม่สามารถเข้าใจบริบทของเนื้อหาหรือคำสั่งที่ถูกให้ไว้ได้เต็มที่

ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัย: มีความเสี่ยงจากการใช้งาน Generative AI ในทางที่ผิด หรือการสร้างเนื้อหาที่ทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์

การนำ Generative AI เข้ามาใช้กับระบบ

Generative AI มีศักยภาพในการเพิ่มความสร้างสรรค์ ช่วยประหยัดเวลา และเปลี่ยนวิธีการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม แต่ก็มีประเด็นที่ต้องระวัง เช่น การใช้งานอย่างมีจริยธรรมและการป้องกันข้อมูลที่ไม่เหมาะสม

  • ลดเวลาการค้นหาเอกสาร
  • ระบบมีความเข้าใจในภาษาของมนุษย์ ทำให้ไม่ต้องค้นหาจาก Keyword หรือ Tag
  • ช่วยสรุปบทวิจัยที่มีรายละเอียดซับซ้อนให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย
  • ยกระดับการทำงานด้วย AI

CALL CENTER : 02-551-2097 ext. 463

วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์
เวลาทำการ : 09.00 น. - 18.00 น.

ติดต่อเรา

บทความที่น่าสนใจ

ความรู้เกี่ยวกับการสแกนเอกสาร และบันทึกข้อมูลเรารวบรวมไว้ที่นี้ที่เดียว รวมไปถึงความรู้เรื่องการบริหารจัดการพนักงาน และงานภายในองค์กร

amazing caves coverimage

สิ่งที่ควรรู้เพื่อเลือกใช้ นามสกุลไฟล์ ให้เหมาะสมกับงาน

การเลือกใช้นามสกุลไฟล์ให้เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่ง นามสกุลไฟล์เอกสารประเภทต่าง ๆ มีพร้อมทั้งข้อดี ข้อเสีย...

อ่านต่อ ...
digital in way

Digitization คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?

(Digitization) เป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการปรับตัวให้ทันกับยุคดิจิทัลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หากมองในแง่ของธุรกิจ...

อ่านต่อ ...