ข้อผิดพลาดในสแกนเอกสารที่ถูกพบบ่อยที่สุด

ข้อผิดพลาดด้านการเตรียมเอกสารก่อนสแกน

1. ไม่จัดเรียงเอกสารก่อนสแกน

เลือกความละเอียดไม่เหมาะสม (DPI) การตั้งค่าความละเอียดต่ำเกินไปอาจทำให้เอกสารไม่ชัดเจน หรือสูงเกินไปทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น

วิธีแก้ไข:
  • ตรวจสอบและจัดเรียงเอกสารตามลำดับก่อนสแกน
  • ใช้คลิปหนีบหรือแฟ้มเพื่อแยกเอกสารเป็นชุด
  • 2. ไม่ตรวจสอบคุณภาพกระดาษ

    กระดาษที่มีรอยยับหรือฉีกขาดอาจทำให้เครื่องสแกนทำงานผิดพลาดหรือเกิดการติดขัด

    วิธีแก้ไข:
  • รีดกระดาษให้เรียบก่อนสแกน
  • ใช้เครื่องถ่ายเอกสารเพื่อทำสำเนาในกรณีที่เอกสารต้นฉบับเสียหาย
  • 3. ข้อผิดพลาดด้านการตั้งค่าการสแกน

    เลือกความละเอียดไม่เหมาะสม (DPI) การตั้งค่าความละเอียดต่ำเกินไปอาจทำให้เอกสารไม่ชัดเจน หรือสูงเกินไปทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น

    วิธีแก้ไข:
  • ตั้งค่าความละเอียดที่ 300 DPI สำหรับเอกสารทั่วไป
  • ใช้ 600 DPI หรือสูงกว่าสำหรับเอกสารที่ต้องการความคมชัด เช่น รูปภาพ หรือเอกสารที่มีรายละเอียดเล็กๆ
  • 4. ไม่เลือกโหมดสีที่เหมาะสม

    การสแกนเอกสารสีในโหมดขาวดำ หรือเอกสารขาวดำในโหมดสี อาจทำให้คุณภาพของไฟล์ไม่ตรงตามความต้องการ

    วิธีแก้ไข:
  • เลือกโหมด Grayscale สำหรับเอกสารขาวดำที่มีรายละเอียด
  • ใช้โหมด Color สำหรับเอกสารที่มีกราฟหรือรูปภาพ
  • อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ข้อดีของการสแกนเอกสารกับผู้เชี่ยวชาญ
    5. ไม่กำหนดขนาดกระดาษ

    สแกนเอกสารโดยไม่กำหนดขนาดกระดาษอาจทำให้เกิดพื้นที่ว่างหรือขอบดำในไฟล์

    วิธีแก้ไข:
  • ตั้งค่าขนาดกระดาษตามเอกสารต้นฉบับ เช่น A4, A3
  • 6. ข้อผิดพลาดในการจัดเก็บไฟล์สแกน

    ตั้งชื่อไฟล์ไม่เป็นระบบ การตั้งชื่อไฟล์แบบสุ่มหรือไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนจะทำให้ค้นหาเอกสารได้ยาก

    วิธีแก้ไข:
  • ใช้รูปแบบการตั้งชื่อไฟล์ที่สื่อความหมาย เช่น ชื่อเอกสาร_วันที่.pdf
  • เพิ่มรหัสหรือคำสำคัญเพื่อช่วยในการค้นหา
  • 7. ไม่จัดโฟลเดอร์เป็นหมวดหมู่

    การเก็บไฟล์สแกนทั้งหมดในโฟลเดอร์เดียวจะทำให้การค้นหาเอกสารลำบาก

    วิธีแก้ไข:
  • สร้างโฟลเดอร์ย่อยตามหมวดหมู่ เช่น การเงิน, การศึกษา, เอกสารส่วนตัว
  • ใช้ซอฟต์แวร์จัดการเอกสารเพื่อช่วยในการจัดระเบียบ
  • สนใจบริการสแกนเอกสาร และบันทึกข้อมูล โทร.02-551-2097 กด 463
    8. ไข้อผิดพลาดด้านความปลอดภัยของข้อมูล

    ไม่เข้ารหัสไฟล์เอกสาร การจัดเก็บไฟล์สแกนโดยไม่เข้ารหัสอาจทำให้ข้อมูลสำคัญเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    วิธีแก้ไข:
  • ใช้โปรแกรมที่รองรับการเข้ารหัสไฟล์ เช่น Adobe Acrobat
  • ตั้งรหัสผ่านสำหรับเอกสารที่มีข้อมูลสำคัญ
  • 9. ไม่สำรองข้อมูล

    การเก็บไฟล์สแกนไว้ในที่เดียวอาจเสี่ยงต่อการสูญหายหากเกิดปัญหากับอุปกรณ์

    วิธีแก้ไข:
  • สำรองข้อมูลบนคลาวด์ เช่น Google Drive, OneDrive
  • ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกเพื่อสำรองข้อมูล
  • 10. ข้อผิดพลาดในการสแกนเอกสารจำนวนมาก

    ไม่ใช้เครื่องสแกนอัตโนมัติ (Feeder) การสแกนเอกสารจำนวนมากด้วยเครื่องสแกนธรรมดาอาจทำให้เสียเวลาและเกิดข้อผิดพลาดจากการจัดเรียงเอกสารผิด

    วิธีแก้ไข:
  • ใช้เครื่องสแกนอัตโนมัติที่มี Feeder สำหรับเอกสารหลายหน้า
  • ตรวจสอบการทำงานของเครื่องเป็นระยะเพื่อป้องกันเอกสารติดขัด
  • 11. ไม่ตรวจสอบไฟล์หลังการสแกน

    การไม่ตรวจสอบคุณภาพของไฟล์หลังสแกนอาจทำให้พบปัญหาภายหลัง เช่น หน้าหาย หรือไฟล์ไม่สมบูรณ์

    วิธีแก้ไข:
  • ตรวจสอบไฟล์ทุกครั้งหลังการสแกน
  • ใช้โปรแกรมตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์
  • 12. ข้อผิดพลาดในการใช้ซอฟต์แวร์สแกน

    ไม่อัปเดตซอฟต์แวร์ การใช้ซอฟต์แวร์สแกนที่ไม่ได้อัปเดตอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดหรือขาดฟีเจอร์ใหม่ๆ

    วิธีแก้ไข:
  • อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
  • ใช้ซอฟต์แวร์ที่มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น OCR สำหรับการแปลงข้อความ
  • 13. ใช้ซอฟต์แวร์ที่ไม่มีใบอนุญาต

    ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับการรับรองอาจเสี่ยงต่อไวรัสและมัลแวร์

    วิธีแก้ไข:
  • ใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย
  • ใช้ซอฟต์แวร์ที่มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น OCR สำหรับการแปลงข้อความ
  • อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เทคนิคการปรับเอกสาร สแกนเอกสารยังไงให้ชัด มีคุณภาพสูง
    สนใจบริการสแกนเอกสาร และบันทึกข้อมูล โทร.02-551-2097 กด 463

    สรุป

    การสแกนเอกสารเป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการข้อมูล แต่หากไม่ระมัดระวัง อาจเกิดข้อผิดพลาดที่ส่งผลต่อคุณภาพของไฟล์ ความปลอดภัยของข้อมูล และประสิทธิภาพในการจัดการเอกสาร การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้โดยการเตรียมความพร้อม ตั้งค่าการสแกนอย่างถูกต้อง และจัดเก็บไฟล์อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้การสแกนเอกสารเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้